<*marquee width="600"scrollamount="3"scrolldelay="80"><*font color="#F5F5DC" style="font-size:24px">**ใส่ข้อความที่เราต้องการ ใส่ข้อความที่เราต้องการ **<*/font><*/marquee>

วันเสาร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2558

พักยาวๆๆๆๆ

วันพฤหัสบดีที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2553

เทคนิค Photoshop แต่งดาวให้สวยด้วย แสงสี

เทคนิค photoshop ดาวสวยๆ
1. เปิดโปรแกรม photoshop ขึ้นมา แล้วสร้างไฟล์ มา ขนาด 300*300 px
2. สร้างเลเยอร์ขึ้นมาใหม่
3. ไปที่เครื่องมือ Custom Shape Tool แล้วคลิกขวาแล้วเลือกเครื่องมือ ตามรูป
ใช้เครื่องมือ custom shape tool photoshop
4. ดูที่แถบเครื่องมือด้านบนแล้วเลือก รูปดาว จากนั้นก็มาวาดใส่ใน งานของเรา ( ตอนวาดรูปดาวให้กด shift ค้างไว้แล้ว ลากลงไปจะได้สัดส่วนที่สวยงาม)
5. คลิกขวาที่เลเยอร์ที่สร้างมาใหม่ เลือก Blending Option แล้วตั้งค่าตามรูป
6। สร้างเลเยอร์ขึ้นมาใหม่อีก 1 เลเยอร์
7. นำเมาส์มาคลิกค้างไว้ ใน เลเยอร์ที่ 1 แล้วรูปดาวเราจะ มีการ select พื้นที่
8. ให้ทีสีดำลงในพื้นที่ เลเยอร์ที่ 2 แล้วกด ctrl+d เพื่อยกเลิก การ select พื้นที่
9. เลือกเครื่องมือ Eraser tool แล้วตั้งค่า
10. นำเมาส์มาวาง แล้วคลิกไป 1 ที
11. สุดท้ายมาปรับค่า Opacity ในเลเยอร์ที่2 ให้เหลือแค่ 70%
สุดท้ายก็จะได้ผลงานออกมา

วันอังคารที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2551

สร้าง Selection ง่าย ๆ ด้วยเครื่องมือ Quick Selection Tool

Quick Selection Tool เป็นเครื่องมือที่ใช้เลือกขอบเขตวัตถุที่พัฒนามาจาก Magic Wand Tool แต่จะพิเศษกว่าตรงที่สามารถเลือกขอบเขตได้อย่างแม่นยำ และยังสามารถปรับแต่งเส้นขอบในภายหลังได้ด้วย โดยวิธีการใช้งาน Quick Selection Tool ทำได้ตามตัวอย่างต่อไปนี้

1. เปิดภาพชื่อ Chapter11-001.JPG
2. สร้างสำเนาเลเยอร์ Background โดยการกดปุ่ม Ctrl+J
3. คลิกเครื่องมือ Quick Selection Tool เพื่อเริ่มต้นการทำงาน
4. กำหนดขนาดหัวแปรงโดยให้ Brush = 35 px
5. คลิกแล้วแดรกเมาส์ เพื่อสร้าง Selection คลุมส่วนต่าง ๆ ที่ต้องการ

หมายเหตุ ในกรณีที่ Selection เกินขอบเขตที่ต้องการ สามารถแก้ไขได้โดยการ กด Alt+คลิกบน Selection ส่วนที่ไม่ต้องการออกได้

ปรับแต่ง Selection ด้วย Refine Edge

Refine Edge เป็นคำสั่งใหม่ที่ใช้สำหรับปรับแต่ง Selection ที่สร้างไว้แล้ว ซึ่งมีลักษณะคล้ายการใช้ Layer Mask แต่มีวิธีการใช้งานที่ง่ายกว่า ดังตัวอย่างต่อไปนี้
1. สร้าง Selection ให้กับภาพที่ต้องการ
2. คลิกปุ่ม Reline Edge... เพื่อปรับแต่ง Selection ใหม่
3. คลิกให้มีเครื่องหมายถูกหน้า Preview เพื่อให้แสดงผลของการปรับแต่ง
4. คลิกเลือกรูปแบบการแสดงผล เพื่อให้เห็นขอบเขตของ Selection ได้ชัดเจนที่สุด
5. ลักษณะของ Selection ถูกแสดงขึ้นมาชัดเจนขึ้น
6. ปรับแต่งค่าต่าง ๆ เพื่อให้ Selection ที่สร้างไว้ดูดีที่สุด
7. คลิกปุ่ม OK เมื่อปรับแต่งค่าเรียบร้อยแล้ว
8. ลักษณะของ Selection ที่พร้อมนำไปใช้งานจะต้องเป็นจุดไข่ปลาวิ่ง
9. คลิกปุ่ม Add layer mask เพื่อซ่อนส่วนที่ไม่ต้องการของภาพ
10. คลิกซ่อนเลเยอร์ Background
11. ลักษณะของภาพที่ได้ ซึ่งจะเห็นขอบเขตของส่วนทีเลือกไว้อย่างชัดเจน
12. นำภาพไปใช้ในการตกแต่งได้ตามต้องการ

คำสั่ง Refine Edge เป็นคำสั่งใหม่ที่ใช้ปรับขอบเขตของ Selection ที่ได้สร้างไว้แล้ว ซึ่งการปรับแต่งแต่ละส่วนสามารถสรุปมาได้ดังนี้
- Radius ใช้สำหรับปรับระยะของเส้นขอบให้ดูนุ่มนวลหรือคมชัด
- Contrast ใช้ปรับเส้นขอบหยัก ๆ ให้คมชัดมากขึ้น
- Smooth ใช้ปรับเส้นขอบที่หยาบให้ดูเนียนเรียบขึ้น
- Feather ใช้ปรับเพื่อเพิ่มความนุ่มนวลของเส้นขอบให้มากขึ้น แต่ยิ่ง
เพิ่มค่ามากก็จะทำให้ภาพดูเบลอขึ้นด้วย
- Contract/Expand ใช้ปรับเพิ่มหรือลดขอบเขตของ Selection ที่สร้างไว้

สร้างมาร์คง่าย ๆ ด้วย Selection Tool (chapter6-001.psd)

1. เปิดภาพ
2. ปรากฏ 2 เลเยอร์ที่พร้อมใช้งานสำหรับการสร้างมาร์ค (เนื่องจากภาพที่เปิดยังไม่ได้รวมเลเยอร์ )
3. ใช้เครื่องมือ Magic Wand สร้าง Selection คลุมท้องฟ้า โดยกดปุ่ม Shift ค้างไว้แล้วคลิกซ้ำ ๆ จนเต็มพื้นที่
4. กดปุ่ม Ctrl + Shift + l เพื่อสลับพื้นที่การ Selection ให้ครอบคลุมส่วนที่เป็นภูเขาและถนน
5. คลิกปุ่ม Add layer mask เพื่อสร้างเลเยอร์มาร์คซ่อนบริเวณที่สร้าง selection w;h
6. ลักษณะของ Layer Mask thumbnail ซึ่งสีดำเป็นขอบเขตที่ถูกซ่อน และสีขาวเป็นขอบเขตที่ยังแสดงไว้ตามปกติ
7. ลักษณะของภาพที่ได้มีท้องฟ้าที่เปลี่ยนไปเป็นรูปท้องฟ้าของเลเยอร์ Background

แต่งภาพแนวแฟชั่นด้วยเทคนิค Cross Process

Cross Process คือ กระบวนการที่นิยมทำสำหรับภาพถ่ายแนวแฟชั่นที่ต้องการให้เกิดความผิดเพี้ยนของสี และมีคอนทราสต์ที่จัดจ้านมากขึ้น ซึ่งมีกระบวนการทำโดยนำฟิล์มสไลด์ไปล้างในน้ำยา C-41 ซึ่งเป็นน้ำยาสำหรับล้างฟิล์มเนกาทีฟ ทำให้ภาพที่ได้มีสีที่จัดมากขึ้น และอีกวิธีหนึ่งคือ การนำฟิล์มเนากาทีฟที่นิยมใช้ถ่ายภาพทั่วไปมาล้างในน้ำยา E+6 ซึ่งเป็นน้ำยาที่ใช้ล้างฟิล์มสไลด์ วิธีนี้จะได้ภาพที่มีสีตุ่น ๆ มัว ๆ ซึ่งไม่ค่อยเป็นที่นิยมเท่าไรนัก
ปัจจุบันการใช้ฟิล์มถ่ายภาพอาจจะลดลงมาก การทำ Cross Process สำหรับภาพที่ได้จากกล้องดิจิตอลจึงต้องอาศัยกระบวนการ Post Process จาก Photoshop ซึ่งมีหลักการที่ง่าย ๆ และสามารถปรับแต่งให้ภาพมีสีที่ได้อย่างต้องการ ดังขั้นตอนต่อไปนี้
1. เปิดภาพชื่อ chapter9-008.jpg
2. คลิกปุ่ม Create new fill or adjustment layer แล้วเลือกคำสั่ง Curves เพื่อเริ่มต้นการปรับแต่งคอนทราสต์
3. ปรับแต่ง Curves ของ Channel RGB ให้มีลักษณะแบบ “S Curves”เพื่อเพิ่มคอนทราสต์ให้กับภาพ
4. ภาพมีคอนทราสต์จัดขึ้น โดยจะเห็นแสงและเงามากขึ้นกว่าเดิม
5. คลิกเลือก Channel Red เพื่อปรับแต่งคอนทราสต์ให้กับ Channel สีแดง
6. ปรับแต่ง Curves โดยดึงจุด Highlight ขึ้นเพื่อเร่งสีแดง และดึง Shadow ลงเพื่อเร่งเงาให้อมเขียวเล็กน้อย
7. ลักษณะภาพที่ได้มีส่วนสว่างที่อมแดง และเงามีสีอมเขียวมากขึ้น
8. คลิกเลือก Channel Green เพื่อปรับแต่งคอนทราสต์ให้กับ Channel สีเขียว
9. ปรับแต่ง Curves โดยเพิ่มสีเขียวให้กับภาพโดยดึงจุด Highlight ขึ้น และเพิ่มเงาให้มีสีแดงอมชมพูโดยดึงจุด Shadow ลงเล็กน้อย
10. ลักษณะของภาพที่ได้มีสีอมเหลืองและมีคอนทราสต์เพิ่มมากขึ้น
11. คลิกเลือก Channel Blue เพื่อปรับแต่งคอนทราสต์ให้กับ Channel สีน้ำเงิน
12. ปรับแต่ง Curves โดยคลิกกำหนดจุด Midtone ให้คงที่ แล้วดึงจุดยึดของ Shadow ขึ้นเพื่อเร่งส่วนเงาให้อมสีน้ำเงิน
13. ลักษณะภาพที่ได้มีเงากลายเป็นสีดำอมน้ำเงินและคอนทราสต์จัดมากขึ้นแล้ว
14. กดปุ่ม Ctrl+Alt+Shift+E เพื่อรวมทุกเลเยอร์ให้เป็นเลเยอร์ใหม่ไว้ด้านบน
15. เปลี่ยนเบลนโหมดเป็น Overlay เพื่อเพิ่มคอนทราสต์ให้สูงขึ้น และลดค่า Opacity เพื่อเพิ่ม คอนทราสต์ให้สูงขึ้น และลดค่า Opacity ลง เพื่อไม่ให้รายละเอียดของภาพสูญหายมากเกินไป
16. ลักษณะภาพที่ได้มีสีจัดจ้านและมีคอนทราสต์รุนแรงมากขึ้น

แก้ปัญหานางแบบ / นายแบบฟันเหลือง

มีเครื่องมืออยู่หลายตัวที่ช่วยแต่งฟันให้ขาวขึ้น เช่น เครื่องมือ Set Whit Point ในคำสั่ง Levels หรือ Curves แต่ผลที่ได้อาจไม่ดีเท่าใดนัก เพราะอาจจะทำให้ภาพทั้งภาพสว่างขึ้นไปด้วย เพราะจุด White Point เปลี่ยนไป ซึ่งอีกวิธีที่ช่วยแก้ไขปัญหานางแบบ นายแบบฟันเหลืองได้ คือ การใช้ Layer Mask ร่วมกับ Layer Blending ซึ่งมีขั้นตอนดังต่อไปนี้
1. เปิดภาพชื่อ Chapter9-004.jpg
2. กดปุ่ม Ctrl + J เพื่อสร้างสำเนาเลเยอร์ Background ขึ้นมาใหม่
3. สร้าง Selection รอบขอบเขตของฟันทั้งหมด โดยสามารถใช้เครื่องมือใดก็ได้ในกลุ่ม Selection
4. คลิกเมนู Select > Feather เพื่อกำหนดให้ขอบ Selection ฟุ้งกระจายเล็กน้อย เพราะเวลาปรับสีเส้นขอบจะได้ดูไม่คมเกินไป
5. กำหนดค่าให้ Feather Radius = 3 pixels
6. คลิกปุ่ม Add layer mask เพื่อซ่อนพื้นที่รอบนอกขอบเขตของฟัน
7. คลิกปุ่ม Create new fill or adjustment layer จากพาเลท Layers แล้วเลือกคำสั่ง Selective Color เพื่อเรียกหน้าต่างการปรับแต่งสีขึ้นมา
8. คลิกเลือก Colors = Yellows เพื่อใช้สำหรับการปรับลดสีเหลือง
9. แดรกเมาส์ลากแถบเลื่อนของสีเหลืองไปทางซ้ายสุด เพื่อลดสีเหลืองของภาพให้หายไปทั้งหมด
10. คลิกปุ่ม OK
11. Alt + คลิก ที่รอยต่อระหว่างเลเยอร์ Selective Color 1 กับ Layer 1 เพื่อกำหนดให้ค่าที่ได้จากการปรับแต่งมีผลเท่ากับขอบเขตใน Layer 1 เท่านั้น
12. ภาพผลลัพธ์ที่ได้ ซึ่งพื้นบริเวณฟันดูขาวสะอาดขึ้นแล้ว
13. กดปุ่ม Ctrl + J เพื่อสำเนาเลเยอร์ Selective Color 1 ขึ้นมาใหม่
14. Alt + คลิก ที่รอยต่อระหว่างเลเยอร์ เพื่อซ่อนค่าจากการปรับแต่งที่อยู่รอบนอก
15. เปลี่ยนเบลนโหมดเป็น Soft Light เพื่อเพิ่มคอนทราสต์ให้สูงขึ้น
16. ปรับลดค่า Opacity ลง เพื่อไม่ให้ฟันดูขาวเกินไป

แก้ไขภาพบิดเบี้ยวด้วย Lens Correction

การถ่ายภาพตึกสูงในมุมเงย หรือการถ่ายภาพมุมต่ำโดยกดกล้องลง รวมถึงการถ่ายภาพโดยใช้เลนส์มุมกว้าง มักจะมีข้างเคียง คือ อาจทำให้ภาพที่ได้ดูเอียง หรือมีสัดส่วนที่ผิดเพี้ยนไป (ไม่เกี่ยวกับฝีมือการถ่ายภาพ และการจัดองค์ประกอบ) นอกจากนี้การใช้เลนส์มุมกว้างถ่ายภาพที่อยู่ใกล้เกินไป ก็อาจได้ภาพที่ป่องตรงกลาง
แก้ไขปัญหาของภาพที่มีมุมมองผิดสัดส่วน สามารถทำได้ด้วยคำสั่ง Lens Correction ที่เป็นฟีเจอร์ใหม่ที่ถูกออกแบบมาเพื่อตากล้องโดยเฉพาะ ซึ่งบานหน้าต่างการปรับแต่งที่สำคัญมีดังนี้
Remove Distortion ใช้สำหรับแก้ไขภาพที่มีลักษณะป่องกลาง หรือภาพที่ดูยุบลึกลงไป
Chromatic Aberration ใช้สำหรับการแก้ไขภาพที่มีสีเหลืองออกมาจากขอบวัตถุ
Vignette ใช้สำหรับปรับแต่งให้ตรงกลางภาพดูเด่นขึ้น โดยการเพิ่มขอบสีที่มุมทั้ง 4 ด้าน และปรับให้ภาพสว่างขึ้นได้ด้วยเช่นกัน
Transform ใช้สำหรับปรับแต่งภาพที่มีมุมมองผิดปกติ ทั้งในแนวตั้งและแนวนอน เช่น ส่วนฐานของภาพดูกว้างกว่าส่วนบน
Angle คือ การปรับแนวระนาบของภาพใหม่
Scale ใช้สำหรับเพิ่มหรือลดสัดส่วนของภาพเพื่อซ่อน หรือแสดงพื้นที่บางส่วนหลังจากการปรับแต่งเสร็จแล้ว
Tool เป้นเครื่องมือที่ใช้ในการปรับแต่ง ทำหน้าที่เช่นเดียวกับการปรับแต่งโดยแถบเลื่อนทางด้านขวามือ แต่จะเห็นผลการปรับแต่งทันที
1. เปิดภาพชื่อ chapter7-003.jpg
2. คลิกเมนู Filter > Distort > Lens Correction เพื่อเรียกใช้คำสั่งสำหรับปรับแต่งภาพ
3. กำหนดค่าให้ Fix Red/Cyan Fringe = +60 เพื่อลดเส้นขอบสีเขียว
4. กำหนดค่าให้ Vertical Perspective = -30 เพื่อลดฐานของภาพให้แคบลง ดูสมดุลกับยอดตึกมากขึ้น
5. คลิกเครื่องมือ Straighten Tool เพื่อใช้แก้ไขแนวระนาบของภาพที่เอียงอยู่ให้ตรงขึ้น
6. แดรกเมาส์เป็นเส้นตรงบริเวณยอดตึกทั้ง 2 เพื่อให้ยอดตึกดูสูงเท่ากัน
7. กำหนดค่าให้ Scale = 95% เพื่อลดสัดส่วนของภาพให้เล็กลงและมองเห็นท้องฟ้าได้มากขึ้น
8. คลิกปุ่ม OK เมื่อปรับแต่งค่าเรียบร้อยแล้ว
9. ลักษณะของภาพที่ได้หลังจากปรับแต่งค่าแล้ว ซึ่งจะเห็นว่ามีพื้นที่บางส่วนหายไป
10. ใช้เครื่องมือ Rectangular Marquee Tool สร้าง Selection คลุมภาพ
11. คลิกเมนู Image > Crop เพื่อตัดพื้นที่รอบนอก Selection ทิ้งไป
12. ภาพผลลัพธ์ที่ได้ดูสมบูรณ์มากขึ้น
13. ตกแต่งเพิ่มเติม โดยเพิ่มความคมชัดด้วยฟิลเตอร์ Unsharp mask และเพิ่มเติมสีสันให้สดใสมากขึ้น